เมนู

ทราบว่า ท่านพระสัมมุขาถวิกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วย
ประการฉะนี้แล.
จบสัมมุขาถวิกเถราปทาน

125. อรรถกถาสัมมุขาวิกเถราปทาน


อปทาของท่านพระสัมมุขาถวิกเถระ อันมีคำเริ่มต้นว่า ชายมาเน
วิปสฺสิมฺหิ
ดังนี้.
แม้พระเถระรูปนี้ ก็ได้เคยบำเพ็ญกุศลมาแล้วในพระพุทธเจ้าพระ-
องค์ก่อน ๆ ทุก ๆ ภพนั้นจะสั่งสมแต่บุญอันเป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพาน
ในกาลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพระนามว่า วิปัสสี ท่านได้เกิดใน
ตระกูลพราหมณ์ ขณะที่มีอายุได้เพียง 7 ปีเท่านั้น ก็ได้ศึกษาศิลปะประจำ
ตัวจนสำเร็จแล้ว ดำรงเพศอยู่ในทางฆราวาส เมื่อพระวิปัสสีโพธิสัตว์
อุบัติขึ้นแล้ว ก็ลักษณะของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ จะมีปรากฏอยู่
ในคัมภีร์ไตรเพท เขาได้พยากรณ์ถึงลักษณะ และความเป็นพระพุทธเจ้า
ของพระวิปัสสีโพธิสัตว์ ผู้เป็นประมุขของพระราชา คือเป็นหัวหน้า
คนว่า จะทำใจของหมู่คนให้ดับ (คือนิพพาน). และได้ประกาศถ้อยคำ
ชมเชยไว้มากมาย. ด้วยกุศลกรรมอันนั้น เขาจึงได้เสวยกามาวจรสมบัติ
6 ชั้น และได้เสวยจักรพรรดิสมบัติในหมู่มนุษย์แล้ว ในพุทธุปบาท-
กาลนี้ เขาได้เกิดในเรือนอันมีสกุล บรรลุนิติภาวะแล้ว เกิดมีความ
ศรัทธาจึงได้บวช ไม่นานนักก็ได้เป็นพระอรหันต์. ท่านได้ปรากฏชื่อว่า
สัมมุขาถวิกเถระ ดังนี้ ตามชื่อแห่งกุศลกรรมที่ได้กระทำไว้.

ท่านได้ระลึกถึงบุพกรรมของตน เกิดความโสมนัส เมื่อจะประกาศ
ถึงเรื่องราวที่ตนเคยได้ประพฤติมาแล้วในกาลก่อน จึงกล่าวคำเริ่มต้นว่า
ชายมาเน วิปสฺสิมฺหิ ดังนี้. ในคาถานั้นมีอธิบายว่า เมื่อพระวิปัสสี
สัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้ว คือประสูติจากพระครรภ์มารดา เราได้กล่าว
พยากรณ์ตามเครื่องหมายที่ปรากฏ คือเหตุที่จะได้เป็นพระพุทธเจ้า, ความ
อัศจรรย์มากมายได้ปรากฏมีขึ้นแล้ว. คำที่เหลือบัณฑิตพอจะรู้ได้โดยง่าย
ตามลำดับแห่งเนื้อความตามที่ได้กล่าวแล.
จบอรรถกถาสัมมุขาถวิกถราปทาน

กุสุมสนิยเถราปทานที่ 6 (126)


ว่าด้วยผลแห่งกาสรถวายอานิสแด่พระพุทธเจ้า


[128] ในกาลนั้น เราเป็นพราหมณ์อยู่ในนครธัญญวดี รู้จบ
ไตรเพท เป็นผู้เข้าใจตัวบท เข้าใจไวยากรณ์ เป็นผู้ฉลาด
ในตำราทำนายลักษณะ คัมภีร์อิติหาส และตำราทำนายนิมิต
พร้อมทั้งคำภีร์สนิฆัณฑุและคัมภีร์เกฏุภะ บอกมนต์กะศิษย์
ทั้งหลาย เราวางดอกอุบล 5 กำไรเบื้องบน เราประสงค์จะ
บวงสรวงบูชายัญในสมาคมบิดามารดา.

ในกาลนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่าวิปัสสีผู้ประ-
เสริฐกว่านระ แวดล้อมด้วยภิกษุสงฆ์ ทรงยังทิศทั้งปวงให้
สว่างไสวเสด็จมา.

เราปูลาดอาสนะแล้วลาดดอกอุบลนั้น แล้วนิมนต์พระ-
มหามุนี นำมาสู่เรือนของตน.

อามิสอันรดที่เราตระเตรียมไว้ มีอยู่ในเรือนของตน เรา
เลื่อมใสได้ถวายอามิสนั้น แต่พระพุทธเจ้าด้วยมือทั้งสอง
ของตน.

เราทราบเวลาที่พระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยแล้ว ได้ถวาย
ดอกอุบลกำหนึ่ง พระสัพพัญญูทรงอนุโนทนาแล้ว บ่าย
พระพักตร์กลับไปยังทิศอุดร.

ในกัปที่ 91 แต่กัปนี้ เราได้ถวายดอกไม้ใดในกาลนั้น
ด้วยการถวายดอกไม้นั่น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่ง
การถวายดอกไม้.